“เบน เดวิส” นักเตะทีมชาติสิงคโปร์เชื้อสายไทย กับก้าวสำคัญบนเกาะอังกฤษ

“เบน เดวิส” นักเตะลูกครึ่งเชื้อสายไทยกลับมาอยู่ในความสนใจของแฟนบอลสิงคโปร์และแฟนบอลชาวไทยอีกครั้ง เมื่อเจ้าหนูเยาวชนทีมชาติสิงคโปร์วัย 18 ปี ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามช่วงท้ายเกมให้ทีมชุดใหญ่ของฟูแลมเป็นนัดแรก ในศึกคาราบาวคัพรอบสอง โดยนัดนี้ทีมเจ้าสัวเปิดบ้านพ่ายให้กับเซาแธมป์ตัน 1-0 โดยมิดฟิลด์วัย 18 ปีได้ใช้รูปธงชาติไทยคู่กับธงชาติสหราชอาณาจักรในหน้าโปรไฟล์อินสตาแกรมส่วนตัวด้วย

                เบน เดวิส หรือชื่อจริงตามพาสปอร์ตว่า เบนจามิน เจนส์ เดวิส เกิดเมื่อ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 ที่ประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต ก่อนย้ายตามครอบครัวไปอยู่ที่สิงคโปร์ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และได้เป็นพลเมืองสิงคโปร์ในปี 2009 ด้วยความที่มีพ่อเป็นชาวอังกฤษ และมีแม่เป็นคนไทย ทำให้เขาถือ 3 สัญชาติ และสามารถเลือกเล่นฟุตบอลทีมชาติได้ทั้ง 3 ประเทศ

                เบน เริ่มต้นฝึกฝนเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ JSSL ศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชนในสิงคโปร์ ซึ่งพ่อของเขาเป็นเจ้าของ โดยศูนย์ฝึกแห่งนี้เป็นพันธมิตรกับสโมสรแทมปิเนส โรเวอร์ ทีมชั้นนำในลีกสิงคโปร์ และสโมสรฟูแลม ทีมชื่อดังจากประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกเลือกเข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนที่ดีที่สุดของประเทศสิงคโปร์ ที่ผลิตนักเตะทีมชาติหลายต่อหลายคน ที่นี่เองทำให้เบนมีโอกาสลงเล่นให้ทีมชาติสิงคโปร์ชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี ต่อมาในปี 2016 เบนได้ย้ายไปศึกษาต่อที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อนจะถูกเชิญไปทดสอบฝีเท้ากับทีมฟูแลม จนในไปสู่การเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสรฟูแลมในปี 2017 ถือเป็นนักเตะสิงคโปร์คนแรกที่ได้โอกาสเซ็นสัญญากับทีมอังกฤษ

ในปีแรกนั้น เบนลงเล่นให้ทีมเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวน 10 นัด สามารถโหม่งทำประตูได้ในเกมที่เจอกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด แถมมีสถิติการจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 90% จนได้รับสัญญานักเตะอาชีพในเดือนกรกฎาคม 2018 ช่วงเวลาเดียวกับที่ฟูแลม ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ทำให้เขามีโอกาสเป็นนักเตะอาเซียนคนแรกที่ได้ลงเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก เสียดายหลังจากนั้น เบนใช้เวลาทั้งหมดลงเล่นให้ทีมสำรองเท่านั้น จนกระทั่งฟูแลมตกชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพอีกหลัง หลังเลื่อนชั้นได้เพียงปีเดียว

                เส้นทางชีวิตนักฟุตบอลของเบนต้องพบกับปัญหาใหญ่ เมื่อกระทรวงกลาโหมของสิงคโปร์ทำหนังเสือเรียกตัวเขาเพื่อเป็นทหารรับใช้งานเป็นเวลา 2 ปีตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออนาคตนักฟุตบอลอาชีพที่กำลังรุ่งโรจน์ เพราะนั้นหมายถึงการทิ้งโอกาสพัฒนาฝีเท้าและลงเล่นให้กับทีมดังของอังกฤษไปถึง 2 ปีเต็ม แม้จะพยายามขอผ่อนผันหลายครั้งไปยังกระทรวงกลาโหม แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธกลับมา จากการวิเคราะห์ของ VWIN มีแนวโน้มว่าเขาอาจต้องตัดสินใจสละสิทธิการเป็นพลเมืองสิงคโปร์ เพื่ออนาคตนักฟุตบอลและโอกาสในการลงเล่นให้กับฟูแลม

                ยังคงต้องติดตามกันต่อว่าอนาคตของนักเตะเชื้อสายไทยคนนี้จะดำเนินไปอย่างไร ทั้งผลงานกับทีมชุดใหญ่ของฟูแลมในศึกแชมเปี้ยนชิพ และความชัดเจนในเรื่องคำสั่งทางทหารจากสิงคโปร์ ไม่แน่ท้ายที่สุดแล้วประเทศไทยอาจได้ตัวเลือกนักเตะทีมชาติเพิ่มขึ้นอีกคนก็เป็นได้