เลสเตอร์เปลี่ยนบอส ร็อดเจอร์จะพาจิ้งจอกสยามไปถึงจุดไหน

จากฤดูกาลที่เลสเตอร์สร้างมหัศจรรย์ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ พวกเขาก็กลายเป็นหนึ่งในสโมสรชั้นนำของเกาะอังกฤษ ผู้เล่นชั้นดีมากมายที่โด่งดังขึ้นจากสโมสรแห่งนี้ อาทิ เจมี่ วาร์ดี้, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ริยาร์ด มาห์เรช จนถึงเจมี่ แม็คไกว์และเบน ชิลเวลล์ที่กลายเป็นกำลังหลักทีมชาติอังกฤษปัจจุบัน เลสเตอร์เป็นทีมระดับบนของพรีเมียร์ลีก แต่พวกเขากำลังแกว่งกับเส้นทางที่ไป

อยากบินสูงแต่เหมือนจะร่วงมากกว่ารุ่ง

ครอบครัวศรีวัฒนประภาเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรและได้ทำการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไปในทางที่ดีขึ้น วิชัยและอัยวัฒน์ สองพ่อลูกได้นำพาสโมสรสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยอนาคตอันสดใส พร้อมกับเป้าหมายไปเล่นฟุตบอลยุโรป ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่วิชัยตั้งเป้าไว้หลายปี แถมเป็นการไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฐานะแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษเสียด้วย

หากไม่นับการสูญเสียเจ้าของสโมสรจากเหตุเฮลิคอปเอปอร์ส่วนตัวตกนอกสนามคิงเพาเวอร์สเตเดียม เลสเตอร์มีผลงานที่กระท่อนกระแท่นมากในฤดูกาลที่ 3 หลังจากได้แชมป์ เคราดิโอ รานิเอรี่ไม่สามารถเข็นสโมสรให้มีผลงานดีได้มากกว่าที่เคยทำได้ โคล้ด ปูเอลไม่สามารถสร้างจุดแข็งให้กับสโมสรและแทบไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่ที่โดดเด่นเข้ามาสู่ทีม ผิดกับช่วงเวลาสองปีก่อนได้แชมป์พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์สามารถดึงนักเตะโนเนมฝีเท้าดีมาสู่ทีมได้มากมาย

ความตั้งใจแรกเริ่มเดิมทีของวิชัย ศรีวัฒนประภาคือการเห็นเลสเตอร์ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกทุกปี ซึ่งนั่นหมายถึงการยกฐานะสโมสรขึ้นมาเป็นทีมท็อปโฟร์ให้ได้ แต่ปัจจุบันเลสเตอร์อยู่อันดับกลางตารางที่แค่ลุ้นไปฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้าลีกก็ลำบากแล้ว

ร็อดเจอร์ชิ่งลีกสก็อตมาลุยพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

แบรนดอน ร็อดเจอร์ ถือเป็นหนึ่งในกุนซือชั้นยอด เขาเคยเกือบพาลิเวอร์พูลได้แชมป์แบบพลาดอย่างเฉียดฉิว ก่อนจะย้ายไปคุมเซลติก ยักษ์ใหญ่ในลีกสก็อตแลนด์ จากนั้นก็เปลี่ยนให้เซลติกเป็นยักษ์ใหญ่หนึ่งเดียวของลีกอย่างต่อเนื่อง 2 ฤดูกาลติด แต่สิ่งที่ร็อดเจอร์ยังคงคาใจตลอดคือการไม่ประสบความสำเร็จบนเวทีพรีเมียร์ลีก เมื่อได้รับการทาบทามจากสโมสรเลสเตอร์ซึ่งค่อนข้างมีชื่อเสียงในแง่ของการสร้างสโมสรทั้งในส่วนของบอร์ดบริหาร องค์ประกอบของสโมสรและแฟนบอล นี่เป็นสโมสรที่มีพื้นฐานดีมากพอที่ร็อดเจอร์สามารถคาดหวังว่าจะทำทีมให้ประสบความสำเร็จได้

ความสำเร็จต่อเนื่องที่เซลติกเป็นเครื่องการันตีว่าร็อดเจอร์สามารถสร้างที่ให้เป็นแชมป์และรักษาความแข็งแกร่งของสโมสรได้ การเซ็นสัญญา 3 ปีกับเลสเตอร์ โดยมีผลผลิตดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของจิ้งจอกสยามที่กำลังขึ้นมาจ่อคิวรอโอกาสอยู่ อาจจะเป็นอีกครั้งที่ร็อดเจอร์จะได้โชว์ฝีมือในการสร้างทีมจากผู้เล่นโนเนมให้กลายเป็นทีมชั้นเลิศเหมือนที่เคยทำได้กับสวอนซี ซึ่งตอนที่ร็อดเจอร์คุมทัพสวอนซีที่อยู่ในแชมเปี้ยนชิพจนเลื่อนชั้นนั้น ทั้งทีมต่างก็เป็นเพียงผู้เล่นระดับกลาง ๆ ไม่ได้มีสตาร์ที่โด่งดังเลย ก่อนที่ร็อดเจอร์จะพาทีมจบสูงถึงอันดับ 11 ในพรีเมียร์ลีกและย้ายมาสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจที่แอนฟิลด์ด้วยกึ๋นในการวางแผนที่หลายคนยอมรับ

โจทย์ที่รออยู่ของร็อดเจอร์และจิ้งจอกสยาม

เลสเตอร์ซิตี้แทบไม่มีความหวังที่จะได้ไปเล่นรายการยูโรป้า ลีกในฤดูกาลหน้าแล้วเพราะพวกเขามีแต้มตามหลังทีมอันดับ 6 อยู่มาก ดังนั้นงานของร็อดเจอร์หลังจากนี้คือการสร้างทีมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลหน้า ร็อดเจอร์จะได้โอกาสในการเช็คและเซตทีมขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ทีมก้าวขึ้นมาท้าทายกลุ่มบนของลีกให้ได้

มันค่อนข้างแน่นอนว่าร็อดเจอร์จะได้ทำงานกับสโมสรที่ให้การสนับสนุนการทำงานของผู้จัดการทีมดีที่สุดทีมหนึ่งของแดนผู้ดี รวมไปถึงแผนการพัฒนาของสโมสรที่มีความคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก สนามซ้อมระดับ 100 ล้านปอนด์ โครงการต่อเติมสนามคิงส์ พาวเวอร์ ผู้เล่นจากอะคาเดมี่ ดังนั้นแบรนดอน ร็อดเจอร์จึงน่าจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ให้สมกับความตั้งใจของเขาที่จะทำให้สโมสรใหม่แห่งนี้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม

เลสเตอร์จะเป็นสโมสรที่เป็นตัวแทนไปลุยศึกยุโรปทุกปีของอังกฤษได้สมกับที่ประธานผู้ล่วงลับได้ตั้งปณิธานเอาไว้หรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าแบรนดอน ร็อดเจอร์จะเจอสูตรสำเร็จในการพาเลสเตอร์กลายเป็นทีมที่ดีกว่าเดิมได้ตั้งแต่ต้นฤดูกาลหน้าเลยหรือไม่ ซึ่งก็ต้องมาดูว่าแนวโน้มความเป็นไปได้จากช่วงเวลาต่อจากนี้ไปจนจบฤดูกาลจะเป็นอย่างไร