0.012% โอกาสความสำเร็จ ของนักฟุตบอลอังกฤษ

ถ้าพูดถึงความฝันของนักฟุตบอลอาชีพทั่วโลกทุกคนต่างฝันอยากเล่นในลีกฟุตบอลชั้นนำ เพราะการเล่นในลีกใหญ่ทีมมีชื่อเสียงนอกจากจะนำมาซึ่งความสำเร็จด้านตัวเงินและความภาคภูมิใจในตัวเองแล้วมันยังเป็นการพิสูจน์ฝีเท้าของพวกเขาว่าดีพอจะประชันกับแข้งระดับโลกด้วย พรีเมียร์ลีกหรือลีกฟุตบอลอังกฤษคืออีกหนึ่งลีกอันดับต้น ๆ ที่นักฟุตบอลหลายชีวิตถวิลหา หลายคนใช้ความพยายามชั่วชีวิตไขว่คว้าหาโอกาสให้ตัวเองได้โชว์ฝีเท้าบนพรีเมียร์ลีกแต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เป็นความจริงที่โหดร้ายเพราะความฝันนับร้อยนับพันนั้นมีเพียงไม่กี่คนที่พาตัวเองไปถึงจุดที่เรียกได้ว่า…ผู้เล่นบนลีกสูงสุด

ตัวเลขคือสิ่งบ่งชี้ที่ไม่เคยโกหกและตัวเลขจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งบอกว่า จากจำนวนดาวรุ่งทั่วเกาะอังกฤษกว่า 1,500,000 คน มีนักฟุตบอลเพียง 180 คนเท่านั้นที่ถึงฝั่งฝันได้เล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก พอหารแล้วเท่ากับโอกาสที่จะเกิดขึ้นมีเพียง 0.012% เท่านั้น พอดูตัวเลขแล้วก็ราวกับปาฏิหาริย์ที่ดาวรุ่งสักคนจะได้เป็น 180 จาก 1,500,000 แน่นอนว่ามันคือความภาคภูมิใจอย่างที่สุดหากนักเตะดาวรุ่งสักคนจะได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก นักเตะอย่างเจสซี่ ลินการ์ดและมาร์คัส แรชฟอร์ดจึงโพสต์ตัวเลขดังกล่าวลงบนอินสตาแกรมของตัวเอง “0.012%” ทว่าการโพสต์ตัวเลขนี้ลงบนสื่อโซเชียลของนักเตะทั้งสองคนไม่ได้แสดงถึงความภาคภูมิใจที่ได้ลงเล่นบนลีกสูงสุดหากแต่เป็นการประกาศศักดาโต้ตอบแฟนบอลของทีมปิศาจแดงที่ไม่พอใจฟอร์มการเล่นของทั้งคู่ประมาณว่า “ถ้าข้าไม่เจ๋งพอข้ายืนอยู่จุดนี้ไม่ได้หรอกโว้ย” ซึ่งการตอบโต้แฟนบอลเช่นนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นทั้งลินซ์และแรชชี่ถูกแฟนบอลถล่มไอจีหนักหน่วงกว่าเดิมและถ้าพูดกันตามเนื้อผ้าเอาตัวเลขมาข่มเหมือนที่สองดาวดังทำกับแฟนบอลฝ่ายแฟนบอลเองก็มีตัวเลขอีกชุดที่เป็นอาวุธหนักเช่นกัน

18 คือจำนวนเกมหลังสุดที่ลินการ์ดลงเล่นและทำได้เพียง 1 ประตู แถมประตูที่ว่าคือเกมเอฟเอคัพกับอาร์เซน่อลทีมชุดผสมที่ประกอบไปด้วยนักเตะไม่ฟิตและนักเตะดาวรุ่ง หลังจากนั้นอีก 13 เกมจากทุกรายการเขาทำประตูไม่ได้เลย แย่ไปกว่านั้นคือผลงานทั้งฤดูกาลลงสนามไป 33 เกมทำไป 5 ประตูกับการผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูจุ๋มจิ๋มแค่ 3 ลูก นี่คือตัวเลขฟ้องสถิติสุดล้มเหลวของนักเตะแนวรุกอย่างแท้จริง

ส่วนแรชฟอร์ดตัวเลขค่อนข้างหรูกว่าตรงที่ลงสนามทุกรายการรวม 47 นัด ทำประตูไป 13 ลูกและจ่ายให้เพื่อนทำประตูอีก 9 ลูกด้วยกัน แต่หากลงลึกในรายละเอียดเจ้าตัวทำไปเพียง 10 ประตูและจ่ายให้เพื่อนอีก 7 ประตูในเกมลีกแถมมีเพียงประตูเดียวกับสเปอร์เท่านั้นที่เป็นการยิงทีมใหญ่ หนักไปกว่านั้นคือเขายิงประตูได้น้อยกว่าแอชลีย์ บารนส์ และ อเล็กซานดร้า มิโตรวิช กองหน้าจากทีมท้ายตารางอีกด้วย

ในขณะที่นักเตะหลายคนมีฝันอยากเล่นบนพรีเมียร์ลีกพร้อมทั้งทุ่มเททุกอย่างเพื่อพาตัวเองขึ้นไปยืนอยู่บนจุดเดียวกับนักเตะระดับโลกแต่นักเตะผู้อุดมไปด้วยวาสนาอย่างลินการ์ดกับแรชฟอร์ดกลับเอาแต่โชว์สเต็ปแด๊นซ์ ปาร์ตี้กับคนดัง แสดงความเป็นแฟชั่นนิสต้าสุดโต่งบนโลกโซเชียลและก่อสงครามน้ำลายกับแฟนบอลของตัวเอง ทั้งที่ตัวเลขความล้มเหลวอีกชุดฟ้องอยู่ทนโท่คือการร่วงจากอันดับที่ 3 มาจบอันดับ 6 กับ 0 ถ้วยรางวัลในปีนี้ของยูไนเต็ด 3 แชมป์ของคู่แค้นร่วมเมืองอย่างแมนฯซิตี้และที่เจ็บปวดที่สุดคือ 1 ถ้วย UCL ของลิเวอร์พูล จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แฟนบอลจะเคืองใจท่าทีของนักเตะ 0.012%